9 ยุทธวิธีเอาชนะใจคน

ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน  การติดต่อสื่อสารยังคงเป็นเรื่องสำคัญเสมอ  ไม่ว่าจะเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องธุรกิจ  จะประสบผลสำเร็จหรือไม่  บางครั้งก็ต้องอาศัยเทคนิคด้านการประสานงานให้เกิดความประทับใจ  ผลลัพธ์ที่ดีย่อมมาจากยุทธวิธีที่ดี  วันนี้มี 5 ยุทธวิธีเอาชนะใจคนมาฝาก  ซึ่งหากเราสามารถปฏิบัติได้รับรองว่าไม่ว่าเราจะประสานงานหรือขอความช่วยเหลือในเรื่องใด เรื่องนั้นย่อมได้รับความช่วยเหลือจนประสบความสำเร็จแน่นอน

  1. ยิ้มละไมละลายใจ

ยิ้ม เป็นการแสดงออกซึ่งความเป็นมิตรที่ทำได้ง่ายและไม่ต้องฝึกฝนอะไรมาก  เพียงแค่ยิ้มก็เป็นการเปิดประตูด่านแรกที่จะทำความรู้จักกับอีกฝ่ายได้อย่างประทับใจ  การยิ้มทำให้ดูเป็นคนสดใสร่าเริงและมองโลกในแง่ดีทำให้ดึงดูดให้คนเข้าหาได้ง่าย  ดังนั้นคนที่ยิ้มง่ายยิ้มเก่ง  จึงเป็นคนที่คนอื่น ๆ อยากพูดคุยด้วย อยากทำความรู้จักขอเพียงแต่เรายิ้มด้วยความจริงใจเท่านั้นเอง

  1. จำให้แม่นอย่าเรียกผิด

ฝึกจำชื่อคนให้แม่น  บุคคลที่จำชื่อผู้อื่นได้เสมอนั้น  นับเป็นบุคคลที่มีเสน่ห์  แสดงให้เห็นถึงความเป็นคนที่ใส่ใจผู้อื่น  เราทุกคนคงเคยไปใช้บริการต่าง ๆ เช่น shop ของเครือข่ายค่ายมือถือ  หรือศูนย์บริการรถยนต์  องค์กรเหล่านี้ฝึกฝนพนักงานให้เรียกชื่อลูกค้า  เพราะแสดงถึงความใส่ใจแสดงให้ลูกค้ารับรู้ได้ว่าเขาเป็นคนสำคัญ จงจำไว้ว่าภาษาที่ฟังแล้วไพเราะที่สุดคือชื่อของคน ๆ นั้น

  1. ฟังให้จบจะมีแต่คนรัก

เป็นผู้ฟังที่ดี  ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว  หรือธุรกิจการค้า  การเป็นผู้ฟังที่ดีนั้นมักได้ผลตอบแทนมหาศาล  นั่นหมายความว่า  ไม่ว่าเราจะรอบรู้ในทุกเรื่อง  มีวาทศิลป์ในการเจรจาสักเพียงใด  หากรู้จักสงบปากสงบคำในเวลาอันควร  รู้จักว่าเวลาไหนควรถามหรือตอบอย่างไร  นั่นต่างหากที่ทำให้เราพบกับความสำเร็จได้ในทุกเรื่อง

  1. ไม่จำเป็นไม่ต้องโต้แย้ง

หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง  ในทุกสถานการณ์สิ่งที่เราไม่ต้องการพบก็คือความขัดแย้ง  แต่ก็เป็นไปได้ยาก  ดังนั้นหากเจอสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น  ให้พยายามหลีกเลี่ยงการชี้ตัวว่าใครถูกหรือผิด  ควรหาวิธีแก้ไขปัญหาโดยไม่กล่าวถึงปัญหานั้นซ้ำไปซ้ำมาหรือจุดประเด็นคำถามที่ทำให้เกิดความขัดแย้งซึ่งกันและกัน

 

 

 

  1. ให้ความสำคัญและเคารพทุกคน

ให้ความเคารพผู้อื่น  ไม่ว่าผู้นั้นจะมีสถานะสูงหรือต่ำกว่าเรา  โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์ทุกคนไม่ชอบให้ใครมาแสดงอำนาจว่าเหนือกว่า  การให้ความเคารพกับทุกผู้คนทุกชนชั้นอาชีพด้วยความจริงใจ  ตามที่คนคนหนึ่งพึงได้รับนั้น  ทำให้เราจะกลายเป็นผู้ที่ถูกนิยมชมชอบกับคนทุกกลุ่ม  หากประสานงานหรือขอร้องให้ช่วยสิ่งใดย่อมได้รับความร่วมมืออย่างเต็มใจ

  1. แบ่งปันอยู่เสมอ

มีความเสียสละและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม  ในการทำงานร่วมกับคนหมู่มาก  แน่นอนว่าเราไม่สามารถกำหนดให้สถานการณ์ต่าง ๆ เป็นไปได้ตามที่เราต้องการไปทุกเรื่อง  อาจมีบางเรื่องที่เราต้องใช้ความสามารถมากกว่าคนอื่นในด้านที่เราอาจจะถนัดหรือทำได้ดี  หรืออาจมีงานบางงานที่เราต้องอาศัยไหว้วานให้เพื่อนร่วมงานช่วยเหลือในสิ่งที่เค้ารู้หรือทำได้ดี  ดังนั้น เราจะต้องรู้จักเสียสละ  อาจจะเสียสละเรื่องเวลาทำงานหรือภาระงานที่เราอาจจะทำได้ดีกว่าคนอื่นบ้าง  การรู้จักเสียสละความสุขสบายส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ จะทำให้เราเป็นคนที่น่าคบหาและน่าไว้วางใจ  นอกจากการเสียสละความสุขส่วนตัวแล้วในบางครั้งเราก็ต้องทำงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่งานของตัวเราเอง  เพื่อประโยชน์ขององค์กรเป็นหลัก  อาจจะต้องทำงานอื่น ๆ เพิ่มเติมโดยที่ไม่มีอะไรตอบแทน  แต่เชื่อเถอะว่าการที่เราเป็นคนทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมจะทำให้เราเป็นที่รู้จักและยอมรับในองค์กร

  1. เอาธรรมะมาใช้ทุกเวลา

มีความเป็นธรรมและตรงไปตรงมา  ในการทำงานร่วมกันกับคนหลายคน  เมื่อการเกิดความไม่พอใจหรือเกิดการกระทบกระทั่งกันบ้าง  ให้ถือเป็นเรื่องธรรมดาและเกิดขึ้นได้ในทุกที่  ถ้าหากคุณมีความรู้สึกว่ามีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผลที่สมควร และหากจำเป็นต้องออกความเห็น  คุณควรจะให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมาทันที  ไม่พูดลับหลัง ทุกคนมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ต้องกลัวว่าได้รับผลร้ายที่จะมีต่อเนื่องมาภายหลัง หากคุณสามารถทำเช่นนั้นได้ ก็จะทำให้คนอื่นยอมรับและเชื่อถือในตัวคุณด้วย

  1. ยอมรับคำติชมทุกครั้ง

เมื่อทำผิดต้องยอมรับผิด   ในทุกการทำงานหรือทุกเหตุการณ์ของคนเรา  ย่อมมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง  หากความผิดนั้นเกิดขึ้นจากเราหรือเรามีส่วนเกี่ยวข้อง  ก็ต้องยอมรับและกล่าวขอโทษ  พร้อมกับหาแนวทางแก้ไขปรับปรุงไม่ให้ผิดซ้ำอีก  อย่าเป็นคนที่เอาแต่โทษคนอื่นโดยไม่พิจารณาตนเอง  เพราะการโบ้ยความผิดไปให้คนอื่นแสดงถึงความไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง

  1. ไม่เอาความคิดตัวเองเป็นหลัก

หลีกเลี่ยงการวิจารณ์คนอื่น  คงไม่มีใครชอบคนที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์และตัดสินว่าเค้าเป็นคนแบบนั้นแบบนี้  เราจึงควรหลีกเลี่ยงการวิจารณ์และการตัดสินคนอื่น โดยไม่ควรใส่ร้ายหรือพูดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง หรือไม่ควรดูหมิ่นคนอื่น  แต่ควรพยายามทำความเข้าใจและหาเหตุผลว่าเพราะอะไรเขาจึงกระทำเช่นนั้น  การวิจารณ์คนอื่นอาจเป็นเรื่องสนุกสำหรับเรา  แต่ไม่นานคนอื่น ๆ ก็จะชอบเราน้อยลง  ไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย  เพราะกลัวถูกโดนวิพ